กระบวนการผลิตและเครื่องจักร

กระบวนการผลิตและเครื่องจักร

เอสเอสไอสามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนด้วยกำลังการ ผลิตสูงสุด 2.4 ล้านตันต่อปี และเป็นกำลังการผลิตที่สูง ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

กรรมวิธีการผลิตเหล็ก แผ่นรีดร้อนของเอสเอสไอเริ่มจากการนำเหล็กแท่งแบน (Slab) ที่มีคุณภาพ น้ำหนักตั้งแต่ 5 – 32 ตัน และมีความ หนาตั้งแต่ 160-250 มิลลิเมตร เข้าเตาเผาให้ได้อุณหภูมิ 1,250 องศาเซลเซียส แล้วผ่านกระบวนการรีดและม้วนให้ได้ เหล็กแผ่นที่มีความหนาตั้ง แต่ 1.2 – 13.0 มิลลิเมตร และความกว้างตั้งแต่ 750 – 1,550 มิลลิเมตร และครอบคลุมทุกระดับมาตรฐานคุณภาพ เพื่อตอบสนอง ความต้องการในแต่ละประเภทของลูกค้า โรงงานของเอส เอสไอใช้เทคโนโลยีขั้นสูงที่มีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ สามารถผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนได้บางถึง 1.2 มิลลิเมตร กระบวนการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนของเอสเอสไอเป็น ส่วนหนึ่งของกระบวนการผลิตเหล็กทรงแบนครบวงจร (Integrated Mill of Flat Steel) โดยกระบวนการผลิตแบ่ง ออกเป็น 2 ส่วนคือ

Hot Strip Mill (HSM)

SLAB (เหล็กแท่งแบน)

เหล็กแท่งแบน ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำหรับการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน จะถูกชั่งน้ำหนักและวัดขนาด ก่อนยกเข้าเตาเผา

น้ำหนัก15 – 32 ตัน
กว้าง800 – 1,550 มม.
หนา160 – 250 มม.

WALKING BEAM REHEATING FURNACE (เตาเผา)

เป็นเตาเผาที่ให้ความร้อนแก่เหล็กแท่งแบนอย่างต่อเนื่องจนถึงอุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับการรีด ประมาณ 1,250 ถึง 1,300 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 3 ถึง 4 ชั่วโมง ด้วยอัตรา 275 ตันต่อชั่วโมง

HIGH PRESSURE DE-SCALING BOX (เครื่องชำระล้างสนิมเหล็ก)

ที่ De-Scaling Box เหล็กแท่งแบนที่ถูกเผาจนร้อนตามต้องการแล้วจะถูกทำความสะอาดผิวด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูง 160 บาร์ หรือ 180 เท่าของความดันบรรยากาศ เพื่อแยกสนิมเหล็ก (Scale) ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณผิวเหล็กที่สัมผัสกับอากาศและออกซิเจนในขณะที่มีอุณหภูมิสูง เพื่อไม่ให้สนิมเหล็กฝังเข้าในเนื้อเหล็กเมื่อผ่านเครื่องรีดในขั้นต่อไป

VERTICAL EDGER (เครื่องรีดขอบ) และ REVERSING ROUGHING MILL (เครื่องรีดหยาบ)

เหล็กแท่งแบนที่ถูกกำจัดสนิมเหล็กแล้วจะเข้าผ่านเครื่องรีดขอบ เพื่อลดขนาดความกว้าง และเครื่องรีดหยาบเพื่อลดความหนา เครื่องจักรทั้งสองจะทำงานพร้อมกัน โดยเหล็กแท่งแบนจะถูกรีด กลับไปกลับมา 5 ถึง 7 ครั้ง (Reversing) เพื่อให้ได้ความหนา และความกว้างที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการผลิตขั้นต่อไป สำหรับเหล็กแท่งแบนที่ผ่านการรีดที่เครื่องรีดหยาบแล้วจะ เรียกว่า “เหล็กแผ่นหนา” (Steel Bar)

COIL BOX AND CROP SHEAR (เครื่องม้วนพักและเครื่องตัด)

เหล็กแผ่นหนาที่ผ่านการรีดหยาบจะยาวขึ้นและบางลงเมื่อเทียบ กับเหล็กแท่งแบน ทำให้พื้นผิวของเหล็กสัมผัสอากาศเกิดการสูญเสียความร้อนมากขึ้นและทำให้เหล็กแข็งตัว Coil Box จึงมีหน้าที่ในการม้วนเหล็กแผ่นหนาเพื่อลดพื้นผิวเหล็กที่สัมผัสกับอากาศ และทำให้เหล็กแผ่นหนามีอุณหภูมิสม่ำเสมอตลอดทั้งแผ่นด้วยการถ่ายเทความร้อนระหว่างกัน (Heat Conduction) และบริเวณหัวและหางของเหล็กแผ่นหนาซึ่งมีการสูญเสียความร้อนมากกว่าบริเวณอื่นจะถูกตัดทิ้งทันทีเมื่อเหล็กคลี่ออกโดย Crop Shear เพื่อสะดวกต่อการป้อนเข้าเครื่องรีดละเอียด

FINISHING MILL (เครื่องรีดละเอียด)

เครื่องรีดละเอียดทำหน้าที่ลดความหนาของเหล็กแผ่นหนาให้เป็น “เหล็กแผ่นบาง” (Strip) ที่มีความหนาตามความต้องการของลูกค้า

COOLING BED (เครื่องระบายความร้อน)

เหล็กแผ่นบางจะถูกส่งผ่านเครื่องระบายความร้อนด้วยน้ำเพื่อลดอุณหภูมิจาก 850-900 องศาเซลเซียส เหลือ 650 องศาเซลเซียสโดยประมาณ เพื่อรักษาโครงสร้างทางโลหะวิทยา รวมทั้งคุณสมบัติทางกายภาพ

DOWN-COILER (เครื่องม้วนเหล็กแผ่น)

เมื่อผ่านเครื่องระบายความร้อนแล้ว เหล็กแผ่นบางจะถูกม้วนที่ Down-Coiler รัดด้วยแถบเหล็ก (Strapping Band) ชั่งน้ำหนัก ระบุหมายเลขผลิตภัณฑ์ รวมทั้งตัดชิ้นงานเพื่อตรวจสอบคุณภาพ แล้วจึงนำไปเก็บพักรอจนอุณหภูมิลดต่ำลงเท่ากับบรรยากาศปกติ จะได้เป็น “เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน” (Hot Rolled Coil) ที่พร้อมนำส่งลูกค้าต่อไป

HOT ROLLED COIL (เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน)

น้ำหนัก15 – 31 ตัน
กว้าง750 – 1,550 มม.
หนา1.0 – 19.0 มม.

Hot Strip Mill (HSM)

Hot Finishing Line เป็นกระบวนการผลิตเพิ่มเติมโดยวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงคุณภาพของเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนให้เหมาะสมตามการใช้งานของลูกค้า หรือตัดแบ่งให้มีน้ำหนักตามที่ลูกค้าต้องการรวมทั้งเป็นเครื่องตรวจสอบคุณภาพของผิวและรูปทรงของผลิตภัณฑ์ เครื่องจักรของ Hot Finishing Line ประกอบด้วย

SKIN-PASS MACHINE (เครื่องรีดผิวเรียบ)

เป็นเครื่องปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ เพื่อให้ผิวเรียบยิ่งขึ้นโดยใช้ลูกรีดกดทับลงบนเหล็กแผ่นบางที่ถูกคลี่ออกมานอกจากนั้นยังใช้ในการตัดแบ่งผลิตภัณฑ์ตามน้ำหนักที่ลูกค้าต้องการอีกด้วย

SHEARING LINE MACHINE (เครื่องกรอแบ่ง)

มีหน้าที่หลักในการตัดแบ่งเหล็กขนาดใหญ่ให้เป็นม้วนเหล็กขนาดเล็ก หรือปรับปรุงรูปทรง (Reshape) ตามความต้องการของลูกค้า